หลังจากที่นั่งรถรางชมเมืองฮ่องกง ก็ได้เวลาหาคาเฟอีนเข้าร่างกาย ตามประสาฮิปสะเต้อหลงทาง เริ่มหาข้อมูลในเน็ต ก็เจอร้าน NOC Coffee ซึ่งมีคนแนะนำไว้หลายเว็บเลยทีเดียว จากนั้นก็ทำการปักหมุดในแอพ Ulmon หรือ Citymap2Go นั่นเอง เหตุผลที่ชอบใช้แอพนี้ เพราะนอกจากจะมีข้อมูล สถานที่ท่องเทียว ร้านอาหาร ต่างๆ แนะนำ เมื่อตอนโหลดข้อมูลของเมืองนั้นๆ แล้ว เรายังสามารถหาข้อมูลก่อนการเดินทางและปักหมุด แยกตามประเภทของสิ่งที่เราสนใจได้ เช่น coffee place, restaurant, nightlife, ตามแต่ที่เราจะตั้งได้ตามใจชอบ พอไปถึงเราก็เปิดแอพ แล้วก็จิ้ม มันจะโชว์ให้เราเห็นว่าเราอยู่ห่างจากสถานที่นั้นๆ เท่าไหร่ และสามารถใช้แอพนำทางไปได้เลย ซึ่งขอบอกว่า ทิศทาง หรือ routing ที่โชว์ใน map ดูง่าย และไม่หลง เหมือน map อื่นๆ เลยยยย….

กลับมาที่ร้าน NOC Coffee & Roaster กันต่อเลยดีกว่า หลังจากใช้ App Ulmon นำทาง ก็ถึงร้าน NOC Coffee & Roaster ตรงถนน Graham แบบชิวๆ จะเหนื่อยหน่อย ก็ตรงเดินขึ้นเนิน นี่แหละ เพราะย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นเนิน แต่เดินไม่ยาก เดินเหนื่อยหน่อย แต่พอถึงร้านก็ได้พักจิบกาแฟชิลล์ๆ แล้ว

หน้าร้านมีโต๊ะเล็กๆ อยู่สองโต๊ะ ซึ่งถูกจับจองด้วยฝรั่งและนักท่องเที่ยวเรียบร้อย เราจึงเลือกนั่งด้านใน แม้ว่าร้านจะแคบไปนิด ที่ก็ดูอบอุ่น น่านั่ง เราไปถึงประมาณบ่าย 3 นิดๆ โต๊ะเลยเต็ม ได้นั่งตรงข้ามเคาเตอร์ชงกาแฟ ซึ่งก็ดี เพราะจะได้เลยกรรมวิธีการชงกาแฟ และการทำ Latte Art ซึ่งทำออกมาได้ดีทีเดียว ก็แน่นอน เพราะหนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านเป็นแชมป์ Latte Art นั่นเอง

การตกแต่งร้านเรียบง่าย อบอุ่น พนักงานเอาใจใส่ดีมาก ยิ้มแย้ม ต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง ทำให้ร้านดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้สึกถูกกดดัน สามารถนั่งชิลล์ จิบกาแฟ อ่านหนังสือ อัพไอจี ได้อย่างสบายใจ

NOC Coffee ย่อมาจาก Not Only Coffee ซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าไม่ใช่แค่มีดีแต่เรื่องกาแฟ แต่เรื่องอื่นๆ ก็ดีด้วย เช่นการบริการและเอาใจใส่ของพนักงานและบาริสต้าทุกคน รวมไปทั้งเรื่องเล็กๆ เช่นในห้องน้ำของร้าน นอกจากจะสะอาด ตกแต่งเป็นอย่างดี ยังมีพวกโลชั่นต่างๆ ให้เลือกใช้อีกต่างหาก ซึ่งเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ทางร้านไม่ได้มองข้าม และตั้งใจจะมอบประสบการณ์ที่ดีในทุกๆ ด้านให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง

นอกจากกาแฟที่ขึ้นชื่อของร้าน เนื่องจากมีการคัดสรรเมล็ดกาแฟชั้นดีมาจากแหล่งต่างๆ แล้ว ที่ร้านยังมีขนมพวกเค้กต่างๆ รวมทั้งเมนู Breakfast อีกด้วย จริงๆ เพิ่งมารู้ทีหลังว่าที่ร้านมีชั้น 2 ด้วย แต่ไม่ได้ขึ้นไปดู เพราะตอนไปคิดว่าร้านมีชั้นเดียวเล็กๆ แค่นั้น ที่สำคัญได้ข่าวว่าที่ร้านจะขยายเพิ่มชั้น 3 ด้วย ไว้คราวหน้าหากมีโอกาสจะลองแวะไปอีกครั้งแน่นอน